***สินค้าทุกตัวเป็นของแท้และเป็นสินค้าใหม่ 100% ทางร้านเราจะทดสอบภาพและเสียงให้ก่อนทุกตัว***
***ก่อนส่งออกจากร้านค้า ทางร้านถ่ายภาพสินค้าและซีเรียลนัมเบอร์ทุกครั้ง ***
*** กรุณาตรวจสอบสินค้าให้แล้วเสร็จภายใน 7 วัน หลังจากได้รับสินค้า หากพบความผิดปกติกรุณาติดต่อกลับทางร้านเพื่อแจ้งปัญหา ภายใน 7 วัน***
– ดีไซน์บางเฉียบ สวยงาม ดูกลมกลืน มาพร้อมกับระบบเสียง 3.1.2 CH
– Wireless Dolby Atmos ระบบเสียง 3 มิติแบบไร้สาย
– Q-Symphony เสียงที่ออกจากลำโพงซาวด์บาร์และทีวี
– SpaceFit Sound Pro ปรับเสียงให้เหมาะสมกับพื้นที่
– รับประกันศูนย์ไทย 1 ปี
บางเฉียบแต่ทรงพลัง
* ภาพต่าง ๆ เป็นการจำลองเพื่อจุดประสงค์ในการนำเสนอเท่านั้น * TV มีจำหน่ายแยกต่างหาก
4 ไฮไลท์ฟีเจอร์
ดีไซน์อันบางเฉียบ ดีไซน์บางเฉียบที่เข้ากับ TV ที่ติดตั้งบนผนัง
Wireless Dolby Atmos Wireless Dolby Atmos ด้วย Samsung TV
คุณภาพเสียงแบบ 3.1.2ch แบบแท้จริง รับฟังเสียงจากด้านบนได้ด้วยระบบยิงเสียงขึ้นด้
Q-Symphony TV กับซาวด์บาร์ที่ผสานเสียงได้อย่างลงตัว
ดีไซน์อันบางเฉียบ ดีไซน์อันบางเฉียบที่เข้ากับ TV ที่ติดตั้งบนผนังได้อย่างงดงาม
ดีไซน์บางเฉียบสุดมินิมัลที่เหมาะอย่างยิ่งสำหรับการติดตั้งบนผนังนี้สามารถเข้ากับการตกแต่งภายในของคุณได้อย่างกลมกลืน
มีการติดตั้ง Soundbar ขนาดใหญ่ไว้บนผนังใต้ทีวี ซาวด์บาร์ที่ใหญ่โตหายไปและถูกแทนที่ด้วย Ultra Slim Soundbar ซึ่งกินพื้นที่น้อยลง
Wireless Dolby Atmos Wireless Dolby Atmos ด้วย Samsung TV
ใช้งานรูปแบบเสียง Dolby Atmos ที่อิงตามวัตถุได้แบบไร้สายในซาวด์บาร์ของ Samsung สัมผัสที่สุดของเสียงแบบ 3D ที่ซึ่งทุกจังหวะและคลื่นเสียงจะไหลผ่านทั้งด้านบนและรอบ ๆ ตัวคุณ
ภาพระยะใกล้ของ Ultra Slim Soundbar ที่ติดตั้งอยู่ใต้ทีวี พร้อมด้วยโลโก้ของ Dolby Atmos และ DTS Virtual:X ไอคอนสัญญาณ Wi-Fi ปรากฏขึ้นใกล้กับ Soundbar ฉากนี้ซูมออกเพื่อเผยให้เห็นห้องนั่งเล่นทั้งหมด ซาวด์บาร์ปล่อยคลื่นเสียงที่ทำมุม ซึ่งสะท้อนจากเพดานและเคลื่อนไปทางด้านหลังของห้อง
* Dolby Atmos ไร้สายต้องใช้ Wi-Fi และใช้งานได้กับทีวี Samsung ปี 2022 ~ 2024 * ต้องมีเนื้อหาต้นฉบับ Dolby Atmos และ DTS Virtual:X
คุณภาพเสียงแบบ 3.1.2ch แบบแท้จริง รับฟังเสียงจากด้านบนได้ด้วยระบบยิงเสียงขึ้นด้านบน 2 ช่องทาง
ระบบเสียงหลัก 3 ช่องทาง, ซับวูฟเฟอร์ 1 ช่องทาง และระบบเสียงยิงเสียงขึ้นด้านบน 2 ช่องทางช่วยสร้างสภาพแวดล้อมเสียงอันสมบูรณ์แบบได้เพื่อประสบการณ์ความบันเทิงอันน่าดึงดูดใจ
ในห้องนั่งเล่น ผู้หญิงคนหนึ่งนั่งอยู่บนโซฟาและดูทีวี ทีวีได้รับการติดตั้งบนผนัง โดยมี Ultra Slim Soundbar และซับวูฟเฟอร์อยู่ข้างใต้ ซาวด์บาร์ปล่อยคลื่นเสียงที่ทำมุมพุ่งขึ้นไปกระทบเพดาน และกระเด้งลงไปที่ด้านหลังของห้องที่ผู้หญิงคนนั้นนั่งอยู่ จากนั้นคลื่นเสียงทรงกลมจะเล็ดลอดออกมาจากทั้งซาวด์บาร์และซับวูฟเฟอร์
Q-Symphony TV กับซาวด์บาร์ที่ผสานเสียงได้อย่างลงตัว
เทคโนโลยี Q-Symphony ช่วยให้ทั้งลำโพงของ TV กับซาวด์บาร์ทำงานร่วมกันได้เพื่อที่สุดแห่งการประสานพลังเสียง ที่จะให้เสียงอันลงตัวด้วย AI ไหลผ่านในทุกช่องทาง
หน้าจอทีวีแสดงภาพคอนเสิร์ตที่มีชีวิตชีวา ตรงด้านล่างคือแถบเสียง Ultra Slim เมื่อ Q-Symphony ปิดอยู่ ซาวด์บาร์จะเล่นเสียงด้วยตัวเอง โดยปล่อยคลื่นเสียงขนาดเล็กออกมา เมื่อ Q-Symphony เปิดอยู่ ทีวีและซาวด์บาร์จะเล่นเสียงพร้อมกันพร้อมๆ กัน โดยทั้งคู่จะส่งคลื่นเสียงขนาดใหญ่ซิงค์กัน
* Q-Symphony รองรับเฉพาะกับ Samsung TV บางรุ่นเท่านั้น * จำเป็นต้องเชื่อมต่อเข้ากับ TV ผ่านสาย HDMI, สายออปติคัล หรือ Wi-Fi
ไปดูกันว่าอะไรที่ทำให้ซาวด์บาร์นี้ให้เสียงที่สมจริงสุด ๆ ได้
ซาวด์บาร์ที่บางเฉียบสุด ๆ นี้มีลำโพงยิงเสียงออกด้านหน้า ① และลำโพงระบบยิงเสียงขึ้นด้านบน ② รวมถึงซับวูฟเฟอร์แบบพาสซีฟขนาด 8 นิ้ว ③ และวูฟเฟอร์ขนาด 6.5 นิ้ว ④ เพื่อมอบเสียงหลายทิศทางอันทรงพลัง
Ultra Slim Soundbar และซับวูฟเฟอร์วางติดกัน ส่วนประกอบของพวกมันก็แยกออกจากกันเพื่อเผยให้เห็นโครงร่างภายใน ส่วนต่างๆ จะถูกไฮไลต์และติดป้ายกำกับทีละส่วน สำหรับ Soundbar ลำโพงด้านหน้าจะมีป้ายกำกับเป็นหมายเลข 1 และลำโพงแบบยิงเสียงออกจะมีป้ายกำกับเป็นหมายเลข 2 สำหรับซับวูฟเฟอร์ พาสซีฟเรดิเอเตอร์จะมีป้ายกำกับว่าหมายเลข 3 และวูฟเฟอร์จะมีป้ายกำกับว่าหมายเลข 4
คุณภาพเสียง
SpaceFit Sound Pro ปรับเสียงให้เข้ากับพื้นที่ได้อย่างลงตัว
ยกระดับให้กับ SpaceFit Sound ได้ด้วย SpaceFit Sound Pro ตอนนี้ซาวด์บาร์ก็จะสามารถวิเคราะห์และปรับเสียงให้เหมาะกับสภาพห้องได้เองแล้ว รวมถึงผสานเอาเสียงที่มีความคมชัดสูงกับเสียงที่สมจริงเข้าไว้กับเสียงเบสแน่น ๆ อันลงตัว
ห้องนั่งเล่นที่ตกแต่งอย่างทันสมัยจะเปลี่ยนเป็นสไตล์สเก็ตช์ภาพ โดยวัตถุส่วนใหญ่จะจางหายไปจนกลายเป็นโครงร่างเพียงอย่างเดียว Ultra Slim Soundbar ปล่อยจังหวะเดียวที่เคลื่อนที่ไปทั่วทั้งห้องและวิเคราะห์พื้นที่ จากนั้น Soundbar และซับวูฟเฟอร์จะปล่อยคลื่นเสียงออกมา เพื่อระบุว่ากำลังเล่นเสียง
Adaptive Sound เสียงที่เหมาะเจาะในแต่ละฉาก
Adaptive Sound จะปรับเสียงสำหรับคอนเทนต์เสียงบางอย่างให้เหมาะสมโดยอัตโนมัติ เพื่อให้เสียงพูดที่ชัดเจนและเสียงที่มีรายละเอียดตามคอนเทนต์และระดับเสียง
ทีวีหมุนเวียนไปตามฉากต่างๆ รวมถึงการแชทระหว่างผู้หญิงสองคน กีฬา ข่าว และภาพภาพยนตร์ของชาวประมงในทะเลที่มีพายุ ในแต่ละฉาก Ultra Slim Soundbar จะเล่นระดับเสียงที่แตกต่างกัน ซึ่งระบุได้จากแถบเสียงที่ผันผวน
Active Voice Amplifier (AVA) ฟังทุกคำได้อย่างชัดถ้อยชัดคำ
ได้ยินบทสนทนาอย่างชัดเจนแม้จะอยู่ในสภาพแวดล้อมที่มีสิ่งรบกวนก็ตาม Active Voice Amplifier เล่นและปรับเสียงพูดตามระดับเสียงรบกวนที่เปลี่ยนไปได้ เพื่อที่คุณจะได้ไม่พลาดทุกคำพูด
ผู้หญิงคนหนึ่งกำลังดูทีวีซึ่งมี Ultra Slim Soundbar ติดตั้งอยู่ด้านล่างโดยตรง ซาวด์บาร์มีแถบเสียงแสดงระดับเสียง หุ่นยนต์ดูดฝุ่นม้วนตัวเข้ามาในห้อง โดยส่งเสียงรบกวนจากสลักเกลียวไฟ ในการตอบสนอง Soundbar จะเล่นด้วยระดับเสียงที่ดังขึ้น โดยแถบเสียงจะให้กิจกรรมที่มากขึ้น
Samsung Audio Lab
สร้างขึ้นมาโดยเหล่าผู้เชี่ยวชาญด้านนวัตกรรมเสียง
ทดสอบและปรับแต่งเสียงโดย California Audio Lab ซึ่งวิศวกรด้านเสียงระดับโลกของเราใช้เทคโนโลยีด้านการรับฟังที่ทันสมัยเพื่อเสียงที่ลงตัวจากทุกมุมห้อง
สะดวกสบาย
HDMI eARC คุณภาพเสียงที่ไร้สะดุด
เทคโนโลยีที่รองรับกับ HDMI eARC ช่วยมอบเสียงที่ไร้รอยต่อได้ เชื่อมต่อเกมคอนโซลและเครื่องเล่น UBD เข้ากับซาวด์บาร์ได้ผ่าน TV ของคุณ พร้อมเพลิดเพลินไปกับเสียง 3D รอบทิศทางอย่าง Dolby Atmos ได้ในแบบที่ควรจะเป็น
* จำเป็นต้องใช้ TV, อุปกรณ์แหล่งสัญญาณ และคอนเทนต์แบบพิเศษที่รองรับ
ผู้ช่วยคำสั่งเสียง และสตรีมมิ่ง สตรีมเพลงโปรดของคุณและควบคุมด้วยเสียงของคุณ
ควบคุมซาวด์บาร์ด้วยเสียงของคุณโดยใช้อุปกรณ์ที่รองรับ Google Assistant และมี Chromecast ในตัว คุณยังสามารถใช้ Chromecast ในตัวเพื่อสตรีมเนื้อหาเสียง รวมถึงเพลงที่คุณชื่นชอบ หรือคุณสามารถเชื่อมต่อกับ AirPlay เพื่อสตรีมเสียงได้ เพียงแตะไอคอน AirPlay บนอุปกรณ์ Apple ของคุณ ด้วย Apple AirPlay คุณสามารถเพลิดเพลินกับเพลงหรือพ็อดแคสต์ที่คุณชื่นชอบจาก iPhone หรือ iPad ของคุณ
* Google, Chromecast ในตัว และ Google Home เป็นเครื่องหมายการค้าของ Google LLC. * Apple, AirPlay, iPad และ iPhone เป็นเครื่องหมายการค้าของ Apple Inc. ซึ่งจดทะเบียนในสหรัฐอเมริกาและประเทศและภูมิภาคอื่น ๆ * Samsung Soundbar นี้รองรับ AirPlay และต้องใช้ iOS 11.4 หรือใหม่กว่า * ความพร้อมใช้งานของคุณสมบัติอาจแตกต่างกันไปตามภูมิภาค/ผู้ให้บริการ/ภาษา * หากต้องการเชื่อมต่อซาวด์บาร์กับอุปกรณ์เคลื่อนที่ผ่านเครือข่ายไร้สาย (Wi-Fi) จำเป็นต้องมีแอป SmartThings
Tap Sound แตะเพื่อเชื่อมต่อ
เล่นเสียงในโทรศัพท์มือถือของคุณในซาวด์บาร์ได้ด้วยการแตะง่าย ๆ แล้วเพลงก็จะเปลี่ยนได้อย่างไร้รอยต่อเพื่อเล่นเสียงที่น่าทึ่งด้วยซาวด์บาร์
มือหนึ่งถือโทรศัพท์ที่กำลังเล่นเพลงและแตะเบาๆ กับ Ultra Slim Soundbar ซาวด์บาร์จะปล่อยคลื่นเสียงทรงกลมออกมาเป็นชุดในทันที ซึ่งบ่งบอกว่ากำลังเล่นเพลงเดียวกับโทรศัพท์
* Tap Sound สามารถใช้งานได้กับอุปกรณ์ Samsung Mobile ที่ใช้ Android 8.1 และเวอร์ชันใหม่กว่า และมีแอป SmartThings ติดตั้งอยู่
Game Mode Pro เป็นส่วนหนึ่งของเกมได้ด้วยเสียงที่ไม่หยุดนิ่ง
ให้คุณอินไปกับเกมได้ด้วยเสียง 3D อันทรงพลัง ซาวด์บาร์สามารถปรับเสียงให้พร้อมสำหรับการเล่นเกมได้เมื่อซาวด์บาร์ตรวจพบคอนโซลที่เชื่อมต่อเข้ากับ Samsung TV ยิ่งไปกว่านั้น ซาวด์บาร์ยังปรับเสียงให้เข้ากับเกมประเภทต่าง ๆ ใน Gaming Hub ของ Samsung TV ได้ด้วย
* การปรับแต่งเสียงใน Samsung Gaming Hub อาจแตกต่างกันไปตามภูมิภาคและรุ่นของ TV * เกมคอนโซลมีจำหน่ายแยกต่างหาก * อุปกรณ์ที่สามารถใช้งานร่วมกันได้อาจแตกต่างกันไป
แอป SmartThings รองรับกับแอป SmartThings
เชื่อมต่ออุปกรณ์เสียงของคุณเข้ากับแอป SmartThings ผ่าน Wi-Fi เพื่อควบคุมการตั้งค่าเสียงและฟังก์ชันการเล่นเสียงร่วมกันได้อย่างง่ายดายจากอุปกรณ์เคลื่อนที่ของคุณ นอกจากนี้ SmartThings ยังช่วยให้คุณเข้าถึง Voice Assistant และฟีเจอร์สตรีมเพลงต่าง ๆ ได้ด้วย เพื่อเปลี่ยนอุปกรณ์เสียงของคุณให้กลายเป็นเครื่องเล่นเสียงเพลงที่สามารถใช้งานได้แบบไม่ต้องใช้มือกดได้อย่างไร้สะดุด
* จำเป็นต้องใช้อุปกรณ์เคลื่อนที่ที่ใช้ระบบปฏิบัติการ Android 9.0 หรือเวอร์ชันใหม่กว่า หรือ iOS 15.0 หรือเวอร์ชันใหม่กว่า (รายละเอียดสามารถเปลี่ยนไปตามการอัปเดตของซอฟต์แวร์) พร้อมกับมีแอป SmartThings ติดตั้งไว้อยู่ * Group Play รองรับกับอุปกรณ์ได้สูงสุด 5 เครื่อง และต้องเชื่อมต่อกับ 5Ghz ในเครือข่าย Wi-Fi เดียวกัน * ฟังก์ชันที่มีให้บริการอาจแตกต่างกันไปตามภูมิภาค, ผู้ให้บริการ, สภาพแวดล้อมของเครือข่าย หรืออุปกรณ์เคลื่อนที่ และอาจมีการเปลี่ยนแปลงได้โดยไม่ต้องแจ้งให้ทราบ
เสริมพลังร่วมกับ TV
รีโมทควบคุมเดียว รีโมทเดียวที่ควบคุมได้ทุกอย่าง
รีโมท Samsung TV ของคุณนั้นไม่ได้มีไว้เพื่อใช้กับ TV เพียงอย่างเดียว แต่คุณสามารถใช้รีโมทเพื่อควบคุมฟังก์ชันหลักของซาวด์บาร์ เช่น การเปิดปิด ระดับเสียง และเอฟเฟ็กต์เสียงได้ด้วย
* สามารถใช้งานได้ใน Samsung TV ที่รองรับ Bluetooth
การเชื่อมต่อแบบไร้สายกับ TV เชื่อมต่อซาวด์บาร์ของคุณกับ TV แบบไร้สาย
เชื่อมต่อซาวด์บาร์เข้ากับ Samsung TV ด้วย Wi-Fi หรือ Bluetooth ในไม่กี่ขั้นตอน เสียงและวิดีโอซิงค์กันอย่างสมบูรณ์แบบเพื่อการรับชมที่สมจริง
* สามารถใช้งานได้ใน Samsung TV ที่รองรับ Bluetooth หรือ Wi-Fi
อยู่ด้วยกันอย่างลงตัว
ฟังเสียงรอบทิศทางได้แบบไร้สาย ต่อเติมเสียงรอบทิศทางของคุณพร้อมรับฟีเจอร์ต่าง ๆ ได้มากขึ้น
ชุดลำโพงหลังแบบไร้สาย* ช่วยให้คุณต่อเติมซาวด์บาร์ให้กลายเป็นระบบเสียงรอบทิศทางได้เพื่อประสบการณ์การรับชมภาพยนตร์ (Cinematic Experience) ที่ดีกว่าเดิม ยิ่งไปกว่านั้น คุณยังสามารถเพิลดเพลินไปกับโหมดเสียงที่มากกว่าเดิมได้ด้วยลำโพงหลัง เช่น เสียงจากด้านหลังที่ให้ความเป็นส่วนตัว และการเล่นเสียงแบบร่วมกัน
* ชุดลำโพงหลังแบบไร้สายของ Samsung มีจำหน่ายแยกต่างหาก (SWA-9500S) * ชุดลำโพงหลังแบบไร้สายของ Samsung ต้องใช้สายไฟเพื่อเชื่อมต่อกับลำโพงด้านหลังทั้งซ้ายและขวา
* รูปภาพต่าง ๆ จำลองขึ้นมาเพื่อจุดประสงค์ในการอธิบายเท่านั้น ทั้งนี้ ลักษณะปรากฏและข้อมูลจำเพาะอาจเปลี่ยนแปลงได้โดยไม่ต้องแจ้งให้ทราบ
รีวิว
ยังไม่มีบทวิจารณ์